ที่สมาคมผู้ประกอบการขนส่งแหลมฉบัง ตำบลทุ่งสุขลา อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี นางสุนีย์ ภูติวณิชย์ นายกสมาคมผู้ประกอบการขนส่งแหลมฉบังชลบุรี ได้เป็นประธานเปิดการประชุม คณะกรรมการสมาคมผู้ประกอบการขนส่งแหลมฉบัง พร้อมด้วย คณะกรรมการสมาคมฯ, ผู้ประกอบการรถบรรทุก เข้าร่วมประชุม โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อชี้แจงปัญหาของผู้ประกอบการชนส่ง ที่ได้รับผลกระทบจาการปิดทางเข้า-ออก บนถนนทางหลวงพิเศษหมายเลข 7
นางสุนีย์ ภูติวณิชย์ นายกสมาคมผู้ประกอบการขนส่งแหลมฉบังชลบุรี กล่าวว่า ในการแก้ไขปัญหาของกรมทางหลวงในเรื่องการแก้ไขปัญหารถติดสะสมในเส้นทางคู่ขนานสาย 7 ทั้งการปรับรอบไฟสัญญาจราจรให้รถทางตรงใช้ไฟเขียวได้นานขึ้นไม่สามารถแก้ไขปัญหารถติดได้เพราะรถที่อยู่ในซอยยังคงติดสะสมอยู่มากเพราะถ้าไฟเขียวทางตรงในทางซอยก็จะมีไฟแดงนานขึ้นรวมทั้งการเพิ่มช่องทางจราจรในถนนเส้น 331 เส้น 314 เส้น 344 ให้มากขึ้นถึงแม้ในเส้นทางรถจะวิ่งสะดวกขึ้นแต่จะส่งผลให้โดยตรงสำหรับรถที่จะวิ่งเข้าในเส้น 3701เส้น 3702 ที่จำนวนรถจะมาสะสมอยู่มากไม่เพียงพอที่จะรับกับปริมาณรถเพราะถนนเส้นทางเข้านี้เล็กเป็นการเพิ่มภาระให้มากขึ้นไปอีก สำหรับถนนในช่วงชลบุรีถึงพัทยาที่ทางกรมทางหลวงอ้างว่าจะมีจุดเข้า ออกจากเส้นสาย 7 ถึง 19 จุด ตรงนี้จากที่เราสำรวจมีไม่ถึง 19 จุด จะมีแค่ 3 ช่องทางเท่านั้น คือ แยกพนัส แยกหนองขาม และแยกโป่ง มีแค่นี้ถือว่าน้อยมากไม่สะดวกในการเข้าออก
นายอรุณ เอี่ยมฉลาด ที่ปรึกษาสมาคมผู้ประกอบการขนส่งแหลมฉบังชลบุรีเปิดเผยว่า มอเตอร์เวย์สาย 7 จะส่งผลกระทบทั้งภาคประชาชนที่จะมีความยากลำบากขึ้นในการเดินทางวิถีชีวิตในการเดินทางต้องเปลี่ยนไปจากที่เคยเดินทางในเส้นทางนี้ใช้เวลาไม่ถึง 30 นาที จากบ้านถึงที่ทำงานก็จะต้องใช้เวลามากขึ้นถึง 1 ชั่วโมง ถึง 1ชั่วโมงครึ่งเลยทีเดียว ในภาคธุรกิจ และภาคอุสาหกรรมนั้นแน่นอนว่าในสภาพการจราจรที่แออัดในทางคูขนานสาย 7 เข้าท่าเรือนั้นจะส่งผลถึงต้นทุนในการขนส่งที่จะต้องสูงขึ้นรวมทั้งการส่งออกที่จะมีผลกระทบถึงการส่งสินค้าที่ล่าช้า นอกจากนี้ในส่วนของท่าเรือแหลมฉบังเองก็ต้องมีส่วนรับผิดชอบในการทำให้รถติดเพราะการบริหารงานของท่าเรือทีทำให้เกิดให้รถติดมีการเก็บค่าผ่านทางสำหรับรถบรรทุก รถเทนเลอร์ การเข้าไปรับสินค้าใช้เวลานานมีรถต่อคิวเข้าจำนวนมากส่งผลถึงเส้นทางหลักของประชาชน ส่วนรถอย่างอื่นที่จะเข้าท่าเรือไม่เก็บ พวกเราผู้ประกอบการขนส่งไม่ได้เข้าไปดูมหรสพ สิ่งพวกนี้เราในภาคขนส่งเอาภาระตรงนี้กลับไปให้ภาคอุสาหกรรม ผู้ผลิตและส่งออก ทั้งค่าน้ำมันที่มากขึ้นจากสภาวะรถติดและการเก็บค่าธรรมเนียมอื่น ๆ ถ้ายังไม่มีการแก้ไขปัญหาตรงนี้เราผู้ประกอบการขนส่งจะไม่สามารถแบกรับภาระตรงนี้ไว้ได้ในอนาคตจะต้องมีการปรับค่าขนส่งขึ้นอย่างแน่นอน